อสังหาฯ ปี 68 ซึมเปิดตัวต่ำสุดรอบ 15 ปีหวั่นปัจจัยการเมืองซ้ำเติม
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 กลับไม่สดใสอย่างที่เคยคาดไว้ แม้มีสัญญาณบวกจากดอกเบี้ยที่เริ่มลดลง และมาตรการปลดล็อก LTV แต่กลับถูกกดดันจาก “แรงกระแทกใหม่” ทั้งจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลก “ไตรมาส 4 ปี 2567 เราคิดว่าแย่ที่สุดที่เคยเห็นมา แต่ไตรมาส 1 ปี 2568 แย่ยิ่งกว่า สะท้อนจากกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ของกลุ่มอสังหาฯเฉลี่ย 28% ซึ่งปกติไม่เคยเห็นต่ำกว่า 30% และมีช่วงพีกสุดที่ 35%”ไตรเตชะ มองว่า จุดเปราะบางหลักมาจาก 2 ปัจจัยใหม่ ได้แก่ “แผ่นดินไหว” ที่กระทบความเชื่อมั่นตลาดคอนโดมิเนียมไฮไรส์ และ “ภาษีทรัมป์” ที่กระทบตรงกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจส่งออกกระทบรุนแรงกว่า เพราะกลุ่มนี้ทิ้งเงินจองเลย ไม่แค่ชะลอ และสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด(Worst-case scenario)คือ การเมืองมีปัญหาจะส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นอีก
ดีมานด์หาย เปิดตัวน้อยสุดในรอบ 15 ปี
อสังหาฯ ปี 68 จากสัญญาณเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง ไตรเตชะประเมินว่า ปี 2568 จะมีการเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่เพียง 60,000-70,000 ยูนิต ต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีจำนวนเปิดตัวอยู่ที่ราว 110,000 ยูนิต “ภาพรวมปีนี้น่าจะต่ำสุดในรอบทศวรรษครึ่ง ตลาดคงไม่เห็น 130,000 ยูนิตอีกแล้ว”กลุ่มที่ยังพอไปได้คือ “เรียลดีมานด์” ราคาบ้าน 4-7 ล้านบาท ซึ่งยังมีกำลังซื้อ และเครดิตดีพอในการกู้ ขณะที่กลุ่มบนกว่า 7 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว และกลุ่มล่างประสบปัญหากู้ไม่ผ่าน
คอนโดมิเนียมต่ำ 70,000 บาท/ตร.ม. “แทบไม่เหลือ”
แม้ตลาดชะลอ ศุภาลัยยังเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้รวม 36 โครงการ มูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการนำร่อง “ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวัฒนะ-หลักสี่” คอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น ราคาเฉลี่ยเพียง 55,000 บาท/ตร.ม. บุกทำเลใกล้ศูนย์ราชการและรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สีชมพูกับสีแดง ศุภาลัยเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักชัดเจน 50% คือ ข้าราชการ อีก 40% เป็นพนักงานสนามบิน และนักศึกษา ที่เหลือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมดีไซน์ห้องกว่า 14 แบบ รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
รุกต่อแม้เศรษฐกิจแผ่ว
- ในด้านต้นทุน บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากราคาวัสดุก่อสร้าง และที่ดินที่ลดลงราว 10-15% โดยในปี 2568 วางงบซื้อที่ดินไว้ 8,000 ล้านบาท และใช้ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท พร้อมเป้ารายได้ที่ 30,000 ล้านบาท และยอดขาย 32,000 ล้านบาท “เรายังเดินหน้า ไม่ปรับเป้ารายได้ เพราะเชื่อว่าตลาดกลางบนยังมีความต้องการอยู่จริง” eslblogcafe